วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

การบ้านส่งวันที่ 17 กันยายน 2551

1. พัฒนาโปรแกรมเครื่องคิดเลข โดยให้ผู้ใช้ป้อนตัวเลข 2 จำนวน และเลือกเครื่องหมาย แล้วทำการแสดงผลลัพธ์ออกทางจอภาพ ดังตัวอย่างจอภาพ (Filename : cal.cpp)

#include
#include
void main()
{
char op;float a,b;
clrscr();
printf("Input First Number : "); scanf("%f",&a);
printf("\nInput Operator(+,-,*,/) : "); scanf("%s",&op);
printf("\nInput Second Number : "); scanf("%f",&b);
switch(op){
case '+': printf("\n%0.2f + %0.2f = %0.2f",a,b,a+b);break;
case '-': printf("\n%0.2f - %0.2f = %0.2f",a,b,a-b);break;
case '*': printf("\n%0.2f * %0.2f = %0.2f",a,b,a*b);break;
case '/': printf("\n%0.2f / %0.2f= %0.2f",a,b,a/b);break;
default: printf("\nPlease seleec choice (+,-,*,/)");
}
getch();
}



2. ให้เขียนโปรแกรม สำหรับคำนวณน้ำหนักมาตรฐาน โดยให้ป้อนข้อมูล ส่วนสูง น้ำหนัก เพศ[M , F] (Filename : weight.cpp)

#include
#include
void main()
{char fm;
float h,w;
clrscr();
printf("Your Male(m) or Female(f) : ");
scanf("%c",&fm);printf("\nYour Weight : ");scanf("%f",&w);
printf("\nYour Hight : ");scanf("%f",&h);
switch(fm) {
case 'm':
if(h-100==w) printf("\nYou Standardweight ");
else if(h-100printf("\nYour weight > Standard : %0.2fkg",w-(h-100));
else if(h-100>w) printf("\nYour weight Less Than Standard : %0.2fkg",(h-110)-w);
break;
case 'f':
if(h-110==w) printf("\nYou Standard weight ");
else if(h-110printf("\nYour weight > Standard : %0.2fkg",w-(h-110));
else if(h-110>w) printf("\nYour weight less Than Standard : %0.2fkg",(h-110)-w);
break;
}
getch();
}

3. ให้เขียนโปรแกรมรับตัวอักษรภาษาอังกฤษมาและบอกว่าเป็นสระ หรือ พยัญชนะ
(Filename : eng.cpp)

#include
#include
void main()
{
char az;
clrscr();
printf("Please your input english word A-Z : ");scanf("%c",&az);
switch(az){
case 'a': printf(" a is article"); break;
case 'e': printf(" e is article"); break;
case 'i': printf(" i is article"); break;
case 'o': printf(" o is article"); break;
case 'u': printf(" u is article"); break;
default : printf("%c is consonant",az);
}
getch();
}


4. ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับจำนวนเงินบาท และบอกว่าใช้ธนบัตรประเภทใดเป็นจำนวนเท่าใด และต้องใช้เหรียญประเภทใด จำนวนเท่าใด (Filename : bank.cpp)

#include
#include
void main()
{
int mn;
clrscr();
printf("Input total money : ");scanf("%i",&mn);
{
if(mn>=1000)
printf("1000 bank :%i",mn/1000);
mn=mn%1000;
}
if(mn>=500){
printf("\n500 bank :%i",mn/500);
mn=mn%500;
}
if(mn>=100){
printf("\n100 bank :%i",mn/100);
mn=mn%100;
}
if(mn>=50){
printf("\n50 bank :%i",mn/50);
mn=mn%50;
}
if(mn>=20){
printf("\n20 bank :%i",mn/20);
mn=mn%20;
}
if(mn>=10){
printf("\n10 coin :%i",mn/10);
mn=mn%10;
}
if(mn>=5){
printf("\n5 coin :%i",mn/5);
mn=mn%5;
}
if(mn>=1){
printf("\n1 coin :%i",mn);
}
getch();
}

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

การบ้านพื้นฐานวิชาคอมพิวเตอร์

3. ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับตัวเลข 0-100 แล้วบอกว่า มากกว่าหรือน้อยกว่า 50
วิธีทำ

#include
#include
main()
{

clrscr();
int number;printf("Input a number 0-100 :");
scanf("%i",&number);
if(number<50);
printf("%i is <50",number);
else printf("%i is >=50",number);
getch();
}




4.ให้เขียนโปรแกรมรับตัวเลข 0-100 โดยเปรียบเทียบกับเลข 50 แล้วบอกว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 50
วิธีทำ

#include
#include
main()
{

clrscr();
int number;
printf("Input a number 0-100 : ");
scanf("%i",&number);
if(number<50);
printf("%i is <50",number);
else if(number==50)
printf("%i is =50",number);
elseprintf("%i is >50");
getch();
}


5. ให้เขียนโปรแกรมรับคะแนนกลางภาค ปลายภาค แล้วทำการรวมคะแนนแล้วบอกว่าได้เกรดอะไร เมื่อ 80-100 ได้เกรด A70-79 ได้เกรด B60-69 ได้เกรด C50-59 ได้เกรด D 0-49 ได้เกรด E
วิธีทำ

#include
#include

main()
{

clrscr();
int mid,final,score;
printf("Input score midterm : ");
scanf("%i",&mid);printf("Input score finalterm : ");
scanf("%i",&final);
score=mid+final;
if(score>=80 && score<=100);
printf("Your score is %i nYour grade is A");
if(score>=70 && score <80);
printf("Your score is %i nYour grade is B);
if(score>=60 && score <70);
printf("Your score is %i nYour grade is C);
if(score>=50 && score <60);
printf("Your score is %i nYour grade is D);
elseprintf("Your score is %i nYour grade is E Sorry too.");
getch();
}

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การวิเคราะห์งานและเขียน Flowchart




แบบฝึกหัดที่ 1/5
1.จงเขียนวิเคราะห์งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสจำนวน 1 รูป
1.คำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส
2.ผลลัพธ์ Output แสดงผลข้อมูล ความยาวด้าน และผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณหาพื้นที่
Input width =.................................................
Area =.................................................
3.ข้อมูลนำเข้า Input ได้แก่ ความยาวของด้าน
4.ชื่อตัวแปร Width หมายถึง ความยาวของด้าน
Area หมายถึง พื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส
5.ลำดับงาน
5.1 ป้อนข้อมูล ความยาวของด้าน
5.2 คำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส
5.3 แสดงผลลัพธ์
5.4 จบการทำงาน

Flowchart 1







แบบฝึกหัด 2/5
2.จงเขียนวิเคราะห์งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า จำนวน 1รูป
1. คำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า
2. ผลลัพธ์ Output
แสดงข้อมูลความยาว ความกว้าง และแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณหาพื้นที่
Input width =………………..
Input height =……………….
Area =……………….
3. ข้อมูลนำเข้า Input
ได้แก่ ความยาว ความกว้าง
4. ชื่อตัวแปรที่ใช้
Width หมายถึง ความกว้าง
Heigth หมายถึง ความยาว
Area หมายถึง พื้นที่สี่เหลี่ยม
5.ลำดับ
5.1 ป้อนข้อมูลความยาวด้าน
5.2 ป้อนข้อมูลความกว้างด้าน
5.3 คำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า
5.4 แสดงผลลัพธ์
5.5 จบการทำงาน


Flowchart 2








แบบฝึกหัดที่ 3/5
3. จงเขียนวิเคราะห์งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาอายุ จากปี พ.ศ. เกิด
1. คำนวณหาอายุ
2. ผลลัพธ์ Out แสดงผลข้อมูล ปีพ.ศ. ปัจจุบัน ปีพ.ศ. เกิด และผลลัพธ์ที่เกิดจากการ คำนวณหาอายุ
Input Present year =………………..
Input Birthday year =………………
Age =………………..
3. ข้อมูลนำเข้า Input ได้แก่ ปีพ.ศ. ปัจจุบัน ปีพ.ศ.เกิด
4. ชื่อตัวแปรที่ใช้ Persen year หมายถึง ปี พ.ศ. ปัจจุบัน
Birthday หมายถึง ปี พ.ศ. เกิด
Age หมายถึง อายุ
5. ลำดับงาน
5.1 ป้อนมูล ปี พ.ศ. ปัจจุบัน
5.2 ป้อนข้อมูล ปี พ.ศ. เกิด
5.3 คำนวณหาอายุ
5.4 แสดงผลลัพธ์
5.5 จบการทำงาน

Flowchart 3







แบบฝึกหัดที่ 4/5
4. จงเขียนวิเคราะห์งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาน้ำหนักโดยเฉลี่ยของนักศึกษาจำนวน 3 คน โดยกรอกข้อมูลดังต่อไปนี้ผ่านคีย์บอร์ด
คนที่1 น้ำหนัก 40 กิโลกรัม
คนที่2 น้ำหนัก 50 กิโลกรัม
คนที่3 น้ำหนัก 60 กิโลกรัม
คำตอบน้ำหนักโดยเฉลี่ยของทั้ง 3 คน = 50 กิโลกรัม
1. คำนวณหาน้ำหนักของนักศึกษา
2. ผลลัพธ์ Output แสดงข้อมูล น้ำหนัก คนที่ 1คนที่ 2คนที่ 3และค่าเฉลี่ย
Input Wight 1 = 40
Input Wight 2 = 50
Input Wight 3 = 60
Average = …………
3. ข้อมูลนำเข้า Input
4. ชื่อตัวแปรที่ใช้ Wight 1 = น้ำหนักคนที่ 1
Wight 2 = น้ำหนักคนที่ 2
Wight 3 = น้ำหนักคนที่ 3
Average = น้ำหนักเฉลี่ย
5. ลำดับงาน
5.1 ป้อนข้อมูลน้ำหนักของนักศึกษา 3 คน
5.2 ป้อนข้อมูลจำนวนคนทั้งหมด
5.3 คำนวณน้ำหนักโดยเฉลี่ย wight1+wight2+wight3/3 = average
5.4 แสดงผลลัพธ์
5.5 จบการทำงาน

Flowchart 4







แบบฝึกหัดที่ 5/5

5. จงเขียนวิเคราะห์งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาเงินโบนัสจากเงินเดือน โดยรับข้อมูลโบนัส เงินเดือนผ่านคีย์บอร์ด เช่น เงินเดือน 10,000 ได้โบนัส 5เดือน แสดงว่าได้โบนัส50,000บาท
1. คำนวณหาเงินโบนัสจากเงินเดือน
2. ผลลัพธ์ Output
เงินเดือน 10,000 บาท
โบนัส 5 เดือน
ได้โบนัส 50,000 บาท
3. ข้อมูลนำเข้า
เงินเดือน
โบนัส
4. ชื่อตัวแปรที่ใช้
Bonus = จำนวนเงินโบนัสที่ได้รับ
Salary = เงินเดือน
Month = โบนัส
5. ลำดับงาน
5.1 ป้อนข้อมูลเงินเดือน (จำนวนเงินเดือน)
5.2 ป้อนข้อมูลโบนัสที่ได้รับ
5.3 คำนวณหาจำนวนเงินโบนัส Bonus = Salary * Month.
5.4 แสดงผลลัพธ์
5.5 จบการทำงาน

Flowchart 5
























วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คำถามบทที่1

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

1.คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง พร้อมรูป

1.1ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)




ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทำงานสูงกว่า คอมพิวเตอร์แบบอื่น ดังนั้นจึงมีผู้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computer) คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ สามารถคำนวนเลขที่มีจุดทศนิยม ด้วยความเร็วสูงมาก ขนาดหลายร้อยล้านจำนวนต่อวินาที งานที่ให้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำแค่ 1 วินาที ถ้าหากเอามาให้คนอย่างเราคิด อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร้อยปี ด้วยเหตุนี้ จึงเหมาะที่จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เมื่อต้องมีการคำนวนมากๆ อย่างเช่น งานวิเคราะห์ภาพถ่าย จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา หรือดาวเทียมสำรวจทรัพยากร งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ งานทำแบบจำลองโมเลกุล ของสารเคมี งานวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร ที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ มีราคาค่อนข้างแพง ปัจจุบันประเทศไทย มีเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cray YMP ใช้ในงานวิจัย อยู่ที่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูง (HPCC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ผู้ใช้เป็นนักวิจัยด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
1.2เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer)




เมนเฟรมคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนามาตั้งแต่เริ่มแรก เหตุที่เรียกว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์เพราะตัวเครื่องประกอบด้วยตู้ขนาดใหญ่ที่ภายในตู้มีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเมนเฟรมคอมพิวเตอร์มีขนาดลดลงมาก
เมนเฟรมเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีราคาสูงมาก มักอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์หลักขององค์การ และต้องอยู่ในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิและมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
บริษัทผู้ผลิตเมนเฟรมได้พัฒนาขีดความสามารถของเครื่องให้สูงขึ้น ข้อเด่นของการใช้เมนเฟรมอยู่ที่งานที่ต้องการให้มีระบบศูนย์กลาง และกระจายการใช้งานไปเป็นจำนวนมาก เช่น ระบบเอทีเอ็มซึ่งเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่จัดการโดยเครื่องเมนเฟรม อย่างไรก็ตามขนาดของเมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์ก็ยากที่จะจำแนกจากกันให้เห็นชัด
ปัจจุบันเมนเฟรมได้รับความนิยมน้อยลง ทั้งนี้เพราะคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมีประสิทธิภาพและความสามารถดีขึ้น ราคาถูกลงขณะเดียวกันระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็ดีขึ้นจนทำให้การใช้งานบนเครือข่ายกระทำได้เหมือนการใช้งานบนเมนเฟรม

1.3 มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)





เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะน้อยกว่าเครื่องเมนเฟรม คือทำงานได้ช้ากว่า และควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่า อย่างไรก็ตามจุดเด่นสำคัญ ของเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือ ราคาย่อมเยากว่าเมนเฟรม การใช้งานก็ไม่ต้องใช้ บุคลากรมากนัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่รู้วิธีใช้มากกว่าด้วย เพราะเครื่องประเภทนี้ มีใช้ตามสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง
มินิคอมพิวเตอร์ เหมาะกับงานหลากหลายประเภท คือใช้ได้ทั้งในงานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม เครื่องที่มีใช้ตามหน่วยงานราชการระดับกรมส่วนใหญ่ มักจะเป็นเครื่องประเภทนี้
เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยมใช้กันมี บริษัท Digital Equipment Corporation หรือ DEC เครื่อง Unisys ของบริษัท Unisys เครื่อง NEC ของบริษัท NEC เครื่อง Nixdorf ของบริษัท Siemens-Nixdorf เครื่อง NCR ของบริษัท NCR ฯลฯ
1.4 เวิร์คสเตชัน (Workstation) และไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer)




ในการทำงานบนเครื่องเมนเฟรมหรือมินิคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะสามารถควบคุมการรับข้อมูลและดูการแสดงผลบนจอภาพได้เท่านั้น ไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์รอบข้างอื่น ๆ ได้ แต่การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ชนิดที่มีผู้ใช้คนเดียวนั้น จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์รอบข้างต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล หน่วยแสดงผล ตลอดจนหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้โปรแกรมได้เอง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปแย่งเวลาการเรียกใช้ข้อมูลกับผู้ใช้อื่น
คอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้คนเดียว สามารถแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ
เวิร์คสเตชั่น ถูกออกแบบมาให้เป็นคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ที่มีความสามารถในการคำนวนด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม หรืองานอื่นๆ ที่เน้นการแสดงผลด้านกราฟฟิกต่าง ๆ เช่น การนำมาช่วยออกแบบภาพกรา ฟฟิกในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อออกแบบชิ้นส่วนใหม่ ๆ เป็นต้น ซึ่งจากการที่ต้องทำงานกราฟฟิกที่มีความละเอียดสูง ทำให้เวิร์คสเตชั่นใช้หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมาก รวมทั้งมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองจำนวนมากด้วย มีผู้ใช้บางกลุ่มเรียกเครื่องระดับเวิร์คสเตชั่นนี้ว่า ซูเปอร์ไมโคร (supermicro) เพราะออกแบบมาให้ใช้งานแบบตั้งโต๊ะ แต่ชิปที่ใช้ทำงานนั้นแตกต่างกันมาก เนื่องจาก เวิร์คสเตชั่นส่วนมากใช้ชิปประเภท RISC (reduce instruction set computer) ซึ่งเป็นชิปที่ลดจำนวนคำสั่งที่สามารถใช้สั่งงานให้เหลือเฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูง
1.5 ไมโครคอมพิวเตอร์ ได้ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1975 และได้รับความนิยมอย่างเมื่อ IBM ได้สร้างเครื่อง IBM PC ออกมา ไมโครคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะมี 2 ชนิดคือ Apple Macintosh และ IBM PC
ในปัจจุบัน ความแตกต่างหรือช่องว่างระหว่างเครื่องเวิร์คสเตชั่นและเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ระดับสูงในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพของเครื่องและความเร็วในการแสดงผลที่ดีกว่าเครื่องเวิร์คสเตชั่นจำนวนมาก

2.คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร



คอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer ) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้ทำงาน เฉพาะด้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์แต่จะ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานบางอย่างของอุปกรณ์นั้นๆ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น เครื่องเล่นเกม ระบบเติมน้ำมันอัตโนมัติ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

3.ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร
aaaaaในปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจต้องอาศัยข้อมูลเป็นหลัก จึงมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการข้อมูลอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการแข่งขันการให้บริการของธนาคารพาณิชย์ การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ ข้อมูลเป็นหัวใจของการดำเนินงานเป็นแหล่งความรู้ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ บริษัทหรือองค์การจึงดำเนินการอย่างจริงจังให้ได้มาซึ่งข้อมูล และปกป้องดูแลข้อมูลของตนเป็นอย่างดี เพราะข้อมูลเป็นสิ่งมีค่ามีราคา การโจรกรรมข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น ดังที่ปรากฎเป็นข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
aaaaaข้อมูล (data) คือ ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ฯลฯ ข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากกระบวนการการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองมีการเทคโนโลยีรวบรวมข้อมูล หาวิธีการที่จะให้ได้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว และเมื่อสถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างผันแปรขึ้น การเตรียมการหรือการแก้สถานการณ์จะดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีaaaaaกรรมวิธีการรวบรวมข้อมูล เป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงาน การรวบรวมข้อมูลที่ดีจะได้ข้อมูลรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วน ดังนั้นผู้ดำเนินการจะต้องให้ความสำคัญที่จุดนี้โดยเฉพาะความรวดเร็ว ความรวดเร็วของการเก็บข้อมูลจึงผูกพันกับเทคโนโลยีซึ่งมีหลายวิธี เช่น การใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การเชื่อมต่อกับระบบปลายทางเพื่อรับข้อมูล การใช้โทรสาร การใช้ระบบอ่านข้อมูลอัตโนมัติ เช่น เครื่องกราดตรวจ (scaner) อ่านข้อมูลที่เป็นรหัสแท่ง (barcode)
2.2ข้อมูลสารสนเทศ
aจากที่กล่าวมาแล้วว่า ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สถานที่ สิ่งของต่างๆ ซึ่งมีการเก็บรวบรวมเอาไว้ และสามารถเรียกเอามาใช้ประโยชน์ได้ในภายหลัง ข้อมูลจึงจำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ดีมีความถูกต้องแม่นยำaสำหรับ สารสนเทศ หมายถึง สิ่งที่ได้จากการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาประมวลผล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามจุดประสงค์ สารสนเทศ จึงหมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการเลือกสรรให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ทันเวลา และอยู่ในรูปที่ใช้ได้ สารสนเทศที่ดีต้องมาจากข้อมูลที่ดี การจัดเก็บข้อมูลและสารสนเทศจะต้องมีการควบคุมดูแลเป็นอย่างดี เช่น อาจจะมีการกำหนดให้ผู้ใดบ้างเป็นผู้มีสิทธิ์ใช้ข้อมูลได้ ข้อมูลที่เป็นความลับจะต้องมีระบบขั้นตอนการควบคุม กำหนดสิทธิ์ในการแก้ไขหรือการกระทำกับข้อมูลว่าจะกระทำได้โดยใครบ้าง นอกจากนี้ข้อมูลที่เก็บไว้แล้วต้องไม่เกิดการสูญหายหรือถูกทำลายโดยไม่ได้ตั้งใจการจัดเก็บข้อมูลที่ดี จะต้องมีการกำหนดรูปแบบของข้อมูลให้มีลักษณะง่ายต่อการจัดเก็บ และมีรูปแบบเดียวกัน ข้อมูลแต่ละชุดควรมีความหมายและมีความเป็นอิสระในตัวเอง นอกจากนี้ไม่ควรมีการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อนเพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่เก็บข้อมูล

4.VLSI คืออะไร สำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร






ยุคต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ยุคที่ 1 (1945 - 1958) -ใช้หลอดสูญญากาศ ความต้านทาน Capacitor และ สวิทช์ ในยุคนั้นคอมพิวเตอร์ใช้คำนวณค่าในตารางการยิงปืนใหญ่ ใช้ภาษาเครื่องจักร ใช้กำลังไฟฟ้ามาก ยุคที่ 2 (1958 - 1964) - ใช้ Transistor เป็นวงจรหลักของระบบคอมพิวเตอร์ ใช้ภาษาระดับสูง มีการคำนวณทางคณิตศาสตร์แบบFloating point ยุคที่ 3 (1964 - 1974) -เริ่มใช้วงจรรวม ( Integrated circuit) มีหน่วยความจำเป็นแบบ Semi conductor ขนาดของคอมพิวเตอร ์จึงมีขนาดเล็กลง ยุคที่ 4 (1974 - ปัจจุบัน) - ใช้เทคโนโลยี VLSI ประยุกต์ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น ในยุคนี้ขนาดของคอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลงมาก ยุคที่ 5 (ปัจจุบัน - ????) - VLSI,ULSI ,Parallel System , Intelligence คาดว่าในยุคนี้จะเป็นยุคของปัญญาประดิษฐ์ การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จะทำงานแบบขนานกันไป มีความเร็วในการประมวลผลสูงมาก
ยุคที่ 5 VLSI
ความหมายย่อมาจาก very large scale integration (แปลว่า วงจรรวมความจุสูงมาก) หมายถึงการสร้างชิป (chip) โดยสามารถนำประตู (gate) มารวมกันได้ถึง 100,000 ประตูหรือมากกว่านั้น แล้วนำมาใช้เป็นตัวประมวลผล ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงได้มาก ในปัจจุบัน มีการสร้างชิปที่มีประตูมากยิ่งไป กว่านั้น เรียกว่า ULSI ( ultra largscaleintegraton หรือวงจรรวมความจุสูงยิ่ง)จากวงจรไอซีได้มีการพัฒนาวงจรรวมความจุสูงหรือแอลเอสไอ (Large Scale Integrated Circuit : LSI) ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2513 ทำให้สามารถบรรจุวงจรทรานซิสเตอร์จำนวนหลายพันตัวลงบนแผ่นซิลิคอนขนาด 1/6 ตารางนิ้ว นับเป็นการเริ่มยุคที่สี่ของคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ระหว่าง พ.ศ.2513 – 2532 และในปี พ.ศ. 2518 สามารถเพิ่มปริมาณวงจรหลายหมื่นวงจรลงบนซิลิคอนขนาดเท่าเดิม เรียกว่า วงจรรวมความจุสูงมากหรือวีแอลเอสไอ (Very Large Scale Integrated Circuit : VLSI) จากการประดิษฐ์วีแอลเอสไอสามารถนำมาสร้างเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู (Central Processing Unit : CPU) ของคอมพิวเตอร์ และสามารถลดขนาดของคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงจนสามารถตั้งบนโต๊ะทำงานในสำนักงาน หรือพกพาไปในที่ต่างๆ เหมือนกระเป๋าหิ้วได้ เรียกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เกิดในยุคนี้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) นอกจากนี้ ยังสามารถนำวงจรวีแอลเอสไอมาสร้างเป็นหน่วยความจำรองที่สามารถเก็บข้อมูลในระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ ทำให้ได้หน่วยความจำที่มีความจุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ยุคนี้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนคอมพิวเตอร์นอกจากช่วยงานคำนวณแล้วยังสามารถทำงานเฉพาะทางอื่นๆ ได้มากกว่าช่วยงานคำนวณ เช่น การนำเสนอข้อมูลแบบสื่อประสม
นอกจากการพัฒนาในระบบฮาร์ดแวร์แล้ว ในยุคนี้ ยังมีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีการติดต่อกับผู้ใช้ในรูปของกราฟิกที่เรียกว่าจียูไอ (Graphic User Interface : GUI) แทนการติดต่อแบบรายคำสั่ง (command line interface)ที่เป็นการพิมพ์คำสั่งทีละคำสั่งเพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ทำงานเช่นในอดีต ปัจจุบันเริ่มมีการใช้เมาส์ในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ และยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์สำเร็จช่วยงานจำนวนมาก ทั้งที่เป็นงานสำนักงานทั่วไปและงานเฉพาะทาง เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์นำเสนอ ซอฟต์แวร์เหล่านี้ก็จะมีการติดต่อกับผู้ใช้แบบจียูไอ ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น การใช้งานคอมพิวเตอร์จึงได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในยุคนี้

5. นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันอะไรบ้าง
5.1 สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เราเรียน
5.2 ฟังเพลง อัพเดตข้อมูลข่าวสารใหม่ๆที่เราอยากรู้
5.3 ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ในสถานที่ไกลๆ
5.4 ใช่ข้อมูลด่วนให้กับเพื่อน อาจารย์ เช่นการส่งการบ้านอาจารย์ทาง
อินเตอร์เน็ต ก็จะได้ส่งทันเวลา
5.5.ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการโลก


ที่มา http://www.kanmuang.org/ntnews/data/7/0087-1.html
วันที่ 28 /06/51

ชื่อ นางสาวอภิญฐภรณ์ ขาวสะอาด ชื่อเล่น น้ำฝน
รหัส 5121207078 ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆวิทย์คอมทุกคนจ้า


วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คอมพ์กระเป๋าหิ้ว 100 ดอลล์

แล็บท็อป 100 ดอลล์ ใกล้คลอด ถึงมือนักเรียนเดือนตุลาคม
ได้ยินข่าวเรื่องคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว หรือ "แล็บท็อป" ราคา 100 ดอลลาร์ ที่จะแจกให้นักเรียนยากจนและอยู่ในชนบทมานานเกือบ 5 ปี
บัดนี้แล็บท็อบราคาถูกที่มีชื่อว่า "เอ็กซ์โอ" ที่มี ศ.นิโคลัส เนโกรปอนที เป็นเจ้าของโครงการ ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว โดยมีบริษัทควอนต้าของไต้หวัน เป็นผู้ผลิต
สำหรับ "เอ็กซ์โอ" ชุดแรกจะถึงมือเด็กนักเรียนในประเทศกำลังพัฒนา ประมาณเดือนตุลาคม หรืออีกเพียง 2 เดือนข้างหน้า
แม้จะมีผู้สงสัย "เอ็กซ์โอ" ในเรื่องมาตรฐาน เพราะราคาที่ถูกแสนถูก รวมทั้งผู้อยู่ในแวดวงคอมพิวเตอร์ยังข้องใจในเรื่องเทคนิค อย่างไม่มีฮาร์ดไดรฟ์
ความเห็นของบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ยังบอกวิจารณ์ว่า จอภาพเล็กไป กลัวเด็กๆ จะเขม้นตามอง กลายเป็นความทรมาน
ขณะที่อีกหลายเสียงวิจารณ์ว่า จะซื้อคอมพิวเตอร์ไปให้เด็กทำไม เอาเงินไปช่วยด้านสาธารณสุข การหาแหล่งน้ำสะอาด หรืออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันดีกว่า
แต่ "เอ็กซ์โอ" ก็ลุยดงน้ำลายของคำวิจารณ์มาได้ และใกล้คลอดเต็มที
ผู้ดีไซน์ยืนยันว่า "เอ็กซ์โอ" ใช้งานได้ในหลายๆ พื้นที่ที่ห่างไกล เช่น เขตทะเลทรายในลิเบีย เขตเทือกเขาในเปรู ใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนไฟฟ้า และเครื่องยังทำงานได้ดีแม้จะร้อนตับแลบถึง 50 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติอย่างนี้ไม่มีในคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป

ที่มา TTTonline www.google.com วันที่13/06/2551

Cover Story virus warrior


Cover Story Virus Warrior

ติดอาวุธชุดเกราะให้คอมพ์เก่ง ไวรัส โทรจัน สปายแวร์...ไม่ได้แอ้ม!!! ตอนที่มีข่าวเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้เป็นครั้งแรกนั้น มีประชาชนบางกลุ่มเกิดความไม่พอใจ และต่อต้านเจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้ด้วย แต่ตอนนั้นคอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเหมือนทุกวันนี้
จักรกลที่มีสมองเป็นหลอดสุญญากาศจำนวนมากมาย ถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงด้วยทรานซิสเตอร์
และมันยังคงถูกใช้งานเฉพาะด้านเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง คอมพิวเตอร์ก็เข้ามาสู่วิถีชีวิตของคนจำนวนมาก ในชื่อของ PC (Personal Computer) นั่นเอง ถ้าจะถามว่าแล้วเจ้า 'ไวรัสคอมพิวเตอร์' มันเกิดขึ้นครั้ง แรกตอนไหนกันละครับ ?

ที่มา www.google.ARiP Magazin:CTM วันที่ 13 /06/2551